ความสำคัญและลำดับความเป็นมา ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 โดยได้บัญญัติในมาตรา 58 ว่า “บุคคล ย่อมมีสิทธ์ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารสาธารณะในครอบครองของหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ .....เว้นแต่การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารนั้นจะกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยของประชาชน...” แม้ว่าจะแสดงถึงความก้าวหน้าถึงการคุ้มครองสิทธิ แต่ก็ยังเป็นบทบัญญัติที่มีขอบเขตแคบไปกว่าหลัก สิทธิได้รู้ ตามความมุ่งหมายของพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 กระบวนการพัฒนาทางความคิดมีการพัฒนามาเป็นลำดับ จนมีการบังคับใช้ “พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540” ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540 และมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา
เจตนารมณ์ของกฎหมาย 1.เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสอย่างกว้างขวางในการได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยว กับการดำเนินการต่าง ๆ ของรัฐ เพื่อประชาชนจะสามารถแสดงความคิดเห็นและใช้สิทธิทางการเมืองได้โดยถูกต้อง กับความเป็นจริง รวมทั้งมีส่วนร่วมในกระบวนการบริหารและการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐอันจะเป็น การส่งเสริมให้มีรัฐบาลที่บริหารบ้านเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส เป็นไปเพื่อประโยชน์องประชาชนมากยิ่งขึ้น 2.เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารของราชการที่หน่วยงานขอรัฐไม่ ต้องเปิดเผยหรืออาจไม่เปิดเผย เพื่อให้ชัดเจนต่อการปฏิบัติ โดยจำกัดเฉพาะข้อมูลข่าวสารที่หากเปิดเผยแล้วจะเกิดความเสียหายต่อประเทศ ชาติหรือต่อประโยชน์ที่สำคัญของเอกชน 3.เพื่อคุ้มครองการรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครองของหน่วยงานของรัฐ
ประเภทของข้อมูลข่าวสารที่จัดเตรียมไว้ ณ ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร ข้อมูลข่าวสารซึ่งจัดเตรียมไว้ให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้ ณ ศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการ (ตามมาตรา 7 และมาตรา 9) ได้แก่ 1.โครงสร้างและการจัดองค์กรในการดำเนินงาน 2.สรุปอำนาจหน้าที่ที่สำคัญและวิธีการดำเนินงาน 3.สถานที่ติดต่อหรือคำแนะนำเพื่อขอรับข้อมูลข่าวสาร 4.กฎ มติคณะรัฐมนตรี ข้อบังคับ หนังสือเวียน ระเบียบ แบบแผน นโยบาย หรือการตีความ เฉพาะที่จัดให้มีสภาพอย่างกฎ 5.ผลการพิจารณา หรือคำวินิจฉัยที่มีผลโดยตรงต่อเอกชน รวมทั้งความเห็นแย้งและคำสั่งที่เกี่ยวข้อง 6.นโยบาย หรือการตีความที่ไม่เข้าข่ายต้องลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา 7.แผนงาน โครงการ และงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่กำลังดำเนินการ 8.สัญญาสัมปทาน สัญญาที่มีลักษณะผูกขาดตัดตอน หรือร่วมทุนกับเอกชนในการจัดทำบริการสาธารณะ 9.ข้อมูลข่าวสารอื่นที่คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการกำหนด
การขอมูลข่าวสารอื่นที่สามารถเข้าขอตรวจดูได้ การขอข้อมูลข่าวสารอื่น(ตามมาตรา 11) นอกเหนือจากข้อมูลข่าวสารที่จัดเตรียมไว้ให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้ ณ ศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการ (ตามมาตรา 7 และมาตรา 9) ประชาชนทั่วไปสามารถยื่นคำขอต่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบข้อมูลข่าวสารนั้น ณ หน่วยงานของรัฐซึ่งครอบครองดูแลข้อมูลข่าวสารดังกล่าว
ข้อมูลข่าวสารที่หน่วยงานของรัฐอาจมีคำสั่งไม่ให้เปิดเผย ข้อมูลข่าวสารที่หน่วยงานของรัฐอาจมีคำสั่งไม่ให้เปิดเผย ได้ หากมีประชาชนขอข้อมูลข่าวสารซึ่งเข้าหลักเกณฑ์ข้อมูลข่าวสารในลักษณะดัง กล่าว หน่วยงานของรัฐอาจมีคำสั่งไม่ให้เปิดเผยได้ โดยต้องระบุเหตุผลที่ไม่ให้ข้อมูลข่าวสารตามที่ขอให้ผู้ยื่นคำขอทราบ ได้แก่ 1.ข้อมูลข่าวสารที่การเปิดเผยอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของ ประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือความมั่นคงทางเศรษฐกิจการคลัง 2.ข้อมูลข่าวสารที่การเปิดเผยจะทำให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพหรือไม่อาจสำเร็จตามวัตถุประสงค์ได้ 3.ความเห็นหรือคำแนะนำภายในหน่วยงานในการดำเนินการเรื่องหนึ่งเรื่องใด 4.ข้อมูลข่าวสารที่การเปิดเผยจะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหรือความปลอดภัยของบุคคล 5.ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลซึ่งการเปิดเผยจะเป็นการรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคลโดยไม่สมควร 6.ข้อมูลข่าวสารที่มีกฎหมายคุ้มครองไม่ให้เปิดเผย หรือมีผู้ให้มาโดยไม่ประสงค์จะให้ทางราชการนำไปเปิดเผย 7.ข้อมูลข่าวสารอื่นที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนด
คณะกรรมการควบคุมและกำกับดูแล คณะกรรมการควบคุมและกำกับดูแลการปฏิบัติตาม พรบ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ตามคำสั่ง อบจ.เชียงราย ที่ 1493/2548 มีหน้าที่ควบคุมและกำกับดูแลการปฏิบัติให้เป็นไปตาม พรบ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ ประกอบด้วย 1.ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ประธานกรรมการ 2.รององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย กรรมการ 3.ผู้อำนวยการกองทุกกอง กรรมการ 4.หัวหน้าสำนักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย กรรมการ/เลขานุการ 5.หัวหน้าฝ่ายบริหารงานทั่วไป กรรมการ/ผู้ช่วยเลขานุการ 6.หัวหน้าฝ่ายนิติการและการพาณิชย์ กรรมการ/ผู้ช่วยเลขานุการ
การปฏิบัติในการขอข้อมูลข่าวสารของราชการ ประชาชนโดยทั่วไปสามารถติดต่อขอตรวจดูหรือคัดสำเนาข้อมูลข่าวสารของราชการ ได้ ณ ที่ทำการของหน่วยงานของรัฐซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลข่าวสารนั้น
สิทธิของประชาชนตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.๒๕๔๐
|