อบจ.เชียงราย ร่วมต้อนรับอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมร่วมตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.แม่สาย

อบจ.เชียงราย ร่วมต้อนรับอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมร่วมตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.แม่สาย

วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2568 นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ในฐานะรองผู้อำนวยการ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้นายญาณาฤทธิ์ หนสมสุข รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมการตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอแม่สาย และร่วมต้อนรับนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยมีนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พลโท สิรภพ ศุภวานิช เจ้ากรมทหารช่าง นายชัยรัตน์ แก้วเพียงเพ็ญ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมชั้น 3 ด่านศุลกากรอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนอำเภอแม่สาย ที่ประสบอุทกภัย ซึ่งการตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ เพื่อให้กำลังใจผู้ที่ประสบภัย รวมถึงเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเหตุที่น้ำเข้าท่วมตลาดสายลมจอยและชุมชนต่างๆ โดยเกิดจากฝนตกหนักในคืนวันที่ 23 ถึงเช้าวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ในส่วนของชุมชนเกาะทราย ชุมชนไม้ลุงขน และชุมชนเหมืองแดง ยังสามารถบริหารจัดการได้ แต่ในส่วนของชุมชนสายลมจอยและถ้ำผาจม ยังเป็นจุดที่หน้าห่วง

และกล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ กรมการทหารช่าง ได้ดำเนินการทำพนังกั้นน้ำ เพื่ออุดช่องว่างตามจุดต่างๆ เพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าสู่เขตเศรษฐกิจและชุมชน ซึ่งการก่อสร้างได้หยุดชะงักชั่วคราว เนื่องจากเหตุน้ำท่วม แต่ในช่วงของต้นเดือนมิถุนายน 2568 คาดว่าฝนจะตกอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ จากนั้นฝนจะทิ้งช่วง จึงสามารถทำการก่อสร้างพนังกั้นน้ำตามแผนได้ต่อไป

จากนั้นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้นำคณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบภัย รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมตรวจเยี่ยมบริเวณสะพานมิตรภาพไทย–เมียนมา แห่งที่ 1 และชุมชนตลาดสายลมจอย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำและขจัดดินโคลนที่ไหลเข้าบ้านเรือนของประชาชน พร้อมทั้งกำชับให้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือหากเกิดฝนตกหนักซ้ำอีกในระยะสั้น ตลอดจนให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยเน้นการคืนสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็ว